fbpx

FULFILLMENT บริการคลังสินค้าออนไลน์ "เก็บ แพ็ค ส่ง"

E-Commerce ช่วง Covid-19 เป็นยังไง? อะไรขายดี อะไรขายไม่ดี?

e-commerce
Education
Fulfillment
Logistics
Marketing

E-Commerce ช่วง Covid-19 เป็นยังไง? อะไรขายดี อะไรขายไม่ดี?

          ด้วยวิกฤตโควิดที่ผ่านมาทำให้ยอดสั่งซื้อออนไลน์ เติบโตขึ้นมากเลยครับ นั่นหมายถึง E-Commerce  ก็เติบโตสูงขึ้นไปด้วย แต่รู้ไหมครับ อะไรขายดี อะไรขายไม่ดี? วันนี้เรา MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าและ Fulfillment มีข้อมูลแบบ Insight มาฝากกันครับ

          ที่ผ่านมา ออเดอร์ ในคลัง MyCloudFulfillment โตขึ้น 3เท่าใน 3เดือน (45k - 80k - 150k) เรียกได้ว่าวุ่นวายกันสุดๆไปเลยครับ และจากคำถามที่พี่ๆหลายคนมาปรึกษาว่า ธุรกิจออนไลน์เป็นยังไงช่วงนี้? วันนี้ ในฐานะของคนทำคลังสินค้าออนไลน์ผมเลยคิดว่าจะมาแชร์กับทุกคนไปพร้อมกันครับว่า “ สินค้าชนิดไหนขายดี อันไหนขายไม่ดี ” เฉพาะจากเท่าที่ผมเห็นมาจากคลังสินค้าของผมนะครับ (หากผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย)

          "Cosmetics ขายดีมาก" เพราะ คนใช้ชีวิตบนออนไลน์มากขึ้นถ่ายรูป วีดีโอคอล ยังไงก็ต้องหน้าสวย แถมความว่าง ส่งผลให้คนแต่งหน้าที่บ้านมากขึ้นด้วยซ้ำ ทำให้แบรนด์หลายๆแบรนด์ที่อยู่ในคลังเราทำยอดสูงสุดช่วงนี้เลยครับ และคลังของเราทำให้กับร้านรวมเครื่องสำอาง ร้านดังเจ้านึงของเมืองไทย ยอดออนไลน์เค้าโตขึ้น 5 เท่า ภายในเดือนเดียวเลยครับ ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลจาก Alibaba ยอดขายอายแชโดว์ ก็เพิ่มขึ้น 150% ลิปสติกบางแบรนด์โตขึ้น 7เท่าเลยด้วยครับ

 "Fashion ช่วงนี้ทำใจ ยอดตกหนักถึง 50-70%" สาเหตุเพราะคนไม่สามารถออกไปไหน และเพราะการแต่งตัวแท้จริงแล้ว คือการแต่งไปพบเจอผู้คน เมื่อไม่มีโอกาสออก เลยอาจจะทำให้เลื่อนการซื้อของแฟชั่นไปก่อน คนก็เลยลดการใช้จ่าย ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากไม่มีช่องทางหน้าร้านตอนนี้เลยของก็ลองไม่ได้ด้วยครับ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Fashion นิยามมันคือ การ “Look good” ช่วงนี้จึงกลายเป็น “Look good in protection”คือการทำยังไงให้ แต่งตัวปลอดภัย แต่แตกต่างร้านเสื้อผ้าจึงหันมาผลิตหน้ากากผ้ามัสลินลายสวยๆแทน, หมวก Faceshield สวยๆ, ที่รวบผม, ถุงมือ ฯลฯ ดังนั้นเห็นได้เลยครับว่าผู้ประกอบการแฟชั่นต้องปรับตัวหน่อยครับถึงจะไปต่อได้เบบสวย ๆ

          มาทีสินค้าจำเป็นทั่วไป (FMCG) เกิดการกักตุนสินค้าจำนวนมาก เพราะออกจากบ้านไม่ได้ ทำให้ Volume ในการซื้อเพิ่มขึ้น คูณ4 ครับ สินค้าจำพวกปลากระป๋อง, มาม่า, อาหารแห้ง, เครื่องดื่ม, ขนม, สินค้าสำหรับทำความสะอาด, สบู่แซมพู, ผ้าอ้อม, Skincare, Personal Care ก็ขึ้น เพราะหาซื้อข้างนอกไม่ได้ ต้องกักตุนของ การดูแลตัวเองก็เหมือนกัน สินค้าอุปโภคบริโภคพวกนี้ เดิมทีเป็นของที่หาซื้อได้ทั่วไปซื้อได้สะดวก แต่แล้วตอนนี้การซื้อผ่านออนไลน์กลายเป็นสะดวกสุด ทั้งหาของได้ง่ายสุด ไว้ใจได้มากสุด คนจึงซื้อของตุนของจากช่องทางนี้เยอะขึ้นนั่นเองครับ

มาดูสินค้าจำพวกอื่น ๆ กันบ้างดีกว่าครับ

          - Household Products หรือของใช้ในบ้านบางชนิด เติบโตพลิกขึ้นมา ประมาณ1.5เท่าครับ เพราะ Lifestyle คนอยู่บ้านมากขึ้น เช่น รองเท้าใส่ในบ้าน,ฟูก, หมอน, เครื่องออกกำลังกายที่บ้าน, ของเล่นเด็ก, ของ Hobby, หนังสือ, รวมไปถึง เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน, ตู้เย็น, เครื่องดูดฝุ่น หรือ แม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องครัว พวกหม้อ เตาไฟฟ้า ยอดขึ้นครับ แต่พวกอุปกรณ์แต่งบ้าน Furnitureต่างๆ ยอดน้อยลงครับ เพราะคนยังคิดว่าไม่จำเป็น เก็บตังค์ไว้ก่อนแถมบางอย่างมันแพง ก็จะเก็บตังค์ไว้ก่อน และเลื่อนการซื้อของชิ้นใหญ่ๆในช่วงไวรัสแบบนี้ครับ

          - Electronics & IT products ยอดขึ้นครับเพราะคนอยู่บ้านมากขึ้น ใช้อุปกรณ์ไอที สื่อสารกันมากขึ้น คอมใหม่, หูฟัง, ไมค์, iPad ฯลฯ เรียกได้ว่าวิกฤตไวรัสนี้ เป็นโอกาสของสินค้าจำพวกนี้ไปเลยครับ

          - Supplement ขายดีอยู่ครับ ช่วงนี้คนใส่ใจเรื่องดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้นจึงอยากเลือกซื้อของสำหรับดูแลตัวเอง เช่น วิตามิน, คอลลาเจน และ ด้วยเหตุผลของการกักกัน และเวลาว่างที่มากขึ้น คนอยู่บ้านมีเวลาเหลือ รวมถึงหลายคนตอนนี้หาอาชีพเสริมเห็นโอกาส ก็เข้าไปสมัครเป็นตัวแทนมากขึ้น ลูกค้าบางเจ้าของเราก็ All time high ในช่วงนี้ก็มีครับ

          - สินค้าชนิดใหม่ๆ ตามเทรนด์ในช่วงนี้ เช่น ฟ้าทลายโจร, หน้ากากอนามัย,กระดาษเปียก,สินค้าทำความสะอาด, Alcohol โตขึ้นมา 500% 

          - Hygenic Products ตอนนี้บางเจ้าก็ทำมาลึกขึ้น สร้างมูลค่าเพิ่มใน Cleaning Product เช่น น้ำหอมผสมแอลกอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ผสมคอลลาเจน เป็นต้น

          สรุปเลย คือจริงๆสินค้า โดนกระทบน้อยมากนะครับ มีแต่คนต้องการมากขึ้น แค่ทุกคนปรับมาซื้อบนช่องทางออนไลน์เท่านั้นเองครับ และถ้าคุณยังขายไม่ดี ช่องทางเพิ่มเติมที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ

          - Live คนมีเวลาว่างเยอะ มาดูไลฟ์มากขึ้น หลายๆแบรนด์ทำ ไลฟ์ใน Facebook หรือ Instagram เป็นประสพการณ์ทางเลือกให้ลูกค้าครับ ทดแทนกับการที่หน้าร้านไม่สามารถเข้าไปซื้อของได้ในตอนนี้

          - Line OA เป็นช่องทางเก็บลูกค้าประจำไว้ได้ดี คุยกับลูกค้า สื่อสารโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อซ้ำ หรือ ให้คนจาก Social media แอด Line@ มาเพื่อปิดการขายก็ทำได้ดีครับ

          - Marketplaces เช่น Lazada/Shopee ช่วงนี้ทำโปรโมชั่นแรงมากๆ ยกตัวอย่าง Lazada Birthday ลูกค้าของผม แบรนด์ขนมยี่ห้อนึงลดราคา 70% ขายหมด 4,000 ออเดอร์ ใน 10 นาทีเลยครับ ส่วนShopee ตอนนี้ก็มี Campaign Super Brand DayLazada เดือนหน้าก็มีโปรอีก มีทั้ง Category Promotion, Flash Sale, Special Event etc. ในฐานะคนขายของ ถ้าเราได้เข้าร่วมแคมเปญเหล่านี้ ยอดการเข้าถึง และคนจะเห็นแบรนด์เราเยอะขึ้นมากเลยครับ

          - Websites ตอนนี้คนไว้วางใจเว็บไซต์ และพร้อมใช้บัตรเครดิตซื้อมากขึ้น ใครขายของออนไลน์ แต่เสิร์ช Google หาไม่เจอเว็บไซต์ก็จะถูกหักคะแนนลงหน่อยๆครับ

          - Social Media Testimonials หากคุณมาใหม่ ควรจะเริ่มมี Reviews ลูกค้าที่ใช้จริง หรือ KOLs ที่น่าเชื่อถือ ทำคอนเทนต์ ให้คุณซักหน่อย จะทำให้คนเปิดใจมากขึ้นเยอะเลยครับ

HIGHTLIGHT ที่น่าสนใจสำหรับคนขายของช่วงนี้

          - การ “จัดเซ็ท” ให้มูลค่าสินค้ารวมเพิ่ม เช่น เป๊บซี่ ขวด 1.45 ลิตร 12 ขวด รวม 18 กก. (คิดดูครับ ของหนักขนาดนั้นไปซื้อเองคงลำบาก ซื้อจากออนไลน์ สะดวกกว่าเยอะ มีคนมาส่งถึงที่) ส่วนผงซักฟอก 2 ถุงใหญ่ รวม18กก. ขายหมดภายใน 30 นาที (เพราะราคาเค้าลดลงไปเกือบ 30% ถ้าต้องใช้กันทั้งบ้านอยู่แล้ว ใช้กันเป็นปี แบบนี้ก็คุ้มมากครับ) จากราคาหลัก 100 กลายเป็นของราคา เกือบพัน แต่ถึงอย่างนั้น ลูกค้าจะรู้สึกว่า คุ้ม! ถูกกว่าซื้อแยกเยอะ ถ้าซื้อเหมาแบบนี้ ขณะที่คนขายก็แฮปปี้ เพราะเสียค่าจัดการขนส่งทีเดียว แต่จับรวมของขายไปได้เยอะขึ้น ราคารวมสูงขึ้นกว่าซื้อแยก หลายร้อยเลยทีเดียว วิน-วิน ทั้งคู่ครับ

          - การจัดโปรโมชั่น เช่น ซื้อ 2 แถม 1, ซื้อของรุ่นนี้ แถม Tester ตัวนี้, ซื้อครบ 3,000 ได้ ของแถมสุดพิเศษฟรี โปรพวกนี้ดึงดูดคนซื้อมากครับ และนักการขายที่ดี ต้องทำโปรดีๆ เอาของที่ขายดี กำไรน้อยมาจับกับของที่ ขายไม่ดี กำไรเยอะ จะได้ทำให้ Profit Margin ต่อออเดอร์สูงขึ้น หรือ เอาของที่ขายดีนำ แล้วแถมของที่มาใหม่ให้คนเปิดใจลองใช้ดูครับ

           - สินค้าหายาก Limited Edition (Long Tail) ขายบนออนไลน์ ยอดขายดีขึ้น 4 เท่า เช่น เลย์ รสแสร้งว่ากุ้ง รสพิซซ่า รสกระเพรา,ชีโตส รสชีสพิเศษ, 7อัพขวดใหญ่ คือหาซื้อไม่ได้ตามร้านทั่วไป เพราะหน้าร้านที่วางของมีจำกัดเราจึงเห็นแต่ของขายดีทั่วไปเสมอๆ แต่พอออนไลน์ คุณวางขายได้ไม่อั้น ไม่เปลืองค่าที่ จึงมักจะมีของแปลกๆ ที่หาไม่ได้ หายาก นี่คือสิ่งที่กำไรสุดสำหรับคนขาย และ เป็นวิธีกำจัด Dead stock ได้ดีที่สุดครับ

           นั่นแหละครับ ยังมีอื่นๆอีกมากมายไว้มีโอกาสจะมาเล่านะครับ สำหรับใครยังไม่เน้นขายออนไลน์ ถึงเวลาต้องลองจริงจังแล้วนะครับ เพราะ การซื้อขาย “Online” ไม่เท่ากับ การซื้อขายของถูกอีกต่อไป แต่มันคือ ของที่มีคนตามหา ที่คุ้มค่า ที่พิเศษกว่าทั่วไป ใครที่พึ่งเริ่มต้นขายออนไลน์สามารถไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ เปลี่ยนจากขายหน้าร้าน มาขายผ่านออนไลน์ และหากคุณจะขายออนไลน์จริงจัง คุณต้องมีผู้ช่วยครับ ไม่ใช่แค่เรื่องเก็บ - แพ็คของแต่รวมไปถึงการวางแผน เรื่องเชื่อมต่อระบบ เรื่องการทำโปรโมชั่นยังไง อย่าลืมให้ MyCloudFulfillment เป็นส่วนช่วยคุณในเรื่องนี้นะครับ ^^

แอดมิน เมฆ

สนใจลงทะเบียนกับเรา
ได้ที่ www.mycloudfulfillment.com
หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 02-138-9920 | [email protected]
line: @mycloudgroup

    ขอใบเสนอราคา

    ฟอร์มการติดต่อสอบถามและขอใบเสนอราคา